เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีเหนียง กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอย ริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้มลึก รูขุมขนกว้าง หรือผิวไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม และหากคุณกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่ โปรแกรม Oligio ยกกระชับหน้า ช่วยให้ใบหน้ากลับมาตึง เรียบเนียน และแลดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
โปรแกรม Oligio คือ การใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Radio Frequency แบบ Monopolar RF สามารถปล่อยพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้คลื่นความถี่ 6.78 MHz ทำให้เกิดความร้อนลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังแท้ เพื่อเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่และอิลาสติน ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้พลังงานความร้อนยังสามารถลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหาเหนียงสะสม มีไขมันบริเวณกรอบหน้าและแก้ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังทำโปรแกรม Oligio ลดแก้ม ลดเหนียง ลดริ้วรอยร่องลึก แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ให้ผิวเรียบเนียนกระชับ หลังทำไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และจะเห็นผลหลังทำประมาณ 20% เนื่องจากพลังงานจะทำให้ผิวชั้นใต้ผิวหนังหดตัวลง จึงทำให้รู้สึกว่าผิวกระชับ และแน่นขึ้นเล็กน้อย บริเวณเหนียงและกรอบหน้าจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ 100% ภายใน 1-3 เดือน เพราะร่างกายจะเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 912 เดือน
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Oligio ลดริ้วรอย ร่องแก้ม ลดเหนียง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้รูขุมขนกระชับ จะอยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการ และปัจจัยภายนอกอื่น ๆ
โปรแกรม Oligio สามารถทำซ้ำได้หลังครบ 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ไว้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
โปรแกรม Oligio จะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าการทำโปรแกรม HIFU หรือเครื่อง RF รุ่นเก่า ๆ เพราะมีระบบสั่นและระบบความเย็น Cooling System ในหัวเครื่อง จึงช่วยลดความร้อนและบรรเทาความรู้สึกขณะยิงคลื่น RF เข้าสู่ผิวชั้นลึก ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะรู้สึกตึง ๆ อุ่น ๆ เพียงเล็กน้อย หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
ทำโปรแกรม Oligio ที่ Aeswell Clinic ดียังไง
จุดเด่นของโปรแกรม Oligio บางนา
1 เจ็บน้อยและสบายผิวขณะทำ
มีระบบสั่น Vibration และระบบความเย็นในตัว หลังทำเสร็จไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย
2 มีระบบช่วยยิงที่รวดเร็วและแม่นยำ
หัวเครื่องมีขนาดใหญ่ จึงใช้เวลาทำไม่นาน เช่น หัว 300 ช็อต ใช้เวลา 1015 นาที และหัว 600 ช็อต ใช้เวลาประมาณ 2030 นาที
3 มีระบบวัดอุณหภูมิผิวตลอดเวลา
มีระบบวัดอุณหภูมิผิวตลอดเวลา เพื่อป้องกันผิวไหม้ นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับแรงกดระหว่างตัวเครื่องกับผิว เพื่อลดความเสี่ยงจากการยิงผิดตำแหน่ง ทั้งนี้จะอยู่ในการดูเเลของเเพทย์ตลอดการรักษา
4. ปรับโหมดได้ตามความเหมาะสม
มีให้เลือกถึง 3 โหมด ได้แก่ Single, Double, Auto เพื่อให้แพทย์สามารถปรับใช้ตามจุดที่ต้องการรักษา และเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรแกรม Oligio ผิวหย่อนคล้อย แก้ได้ที่ Aeswell Clinic ช่วยลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า ลดเหนียง+เส้นคอ และยกกระชับหน้า 300 ช็อต ราคา 15,900 บาท และ 600 ช็อต ราคา 29,900 บาท เพียงจองล่วงหน้า 1,000 บาท วันนี้ รับโปรโมชันเพิ่มเติมฟรี!!
สอบถามรายละเอียด หรือ จองคิวได้ที่ >> https://page.line.me/aeswellclinic?openQrModal=true
1 หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือโดนแดดจัด 48 ชั่วโมงแรก
เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง
2 ทาครีมบำรุง/กันแดด เพื่อฟื้นฟูบำรุงผิว และป้องกันการถูกทำร้ายจากแสงแดดเนื่องจากผิวยังบอบบางอยู่
3 หลีกเลี่ยงการนวด หรือกดแรง ๆ บริเวณที่ทำโปรแกรม Oligio กระชับ
รูขุมขน เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบ
4 ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันอาการอักเสบ
ของผิว
5 สังเกตความผิดปกติของผิว หากมีอาการบวม แดง หรือร้อนผิดปกติ
ควรรีบพบแพทย์
Q : โปรแกรม Oligio เจ็บไหม
A : ไม่เจ็บมาก ระหว่างที่ทำจะรู้สึกอุ่น ๆ เล็กน้อย คนส่วนใหญ่ทำได้สบาย โดยไม่ต้องใช้ยาชา
Q : หลังทำต้องพักฟื้นไหม
A : ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถแต่งหน้า และใช้ชีวิตตามปกติ
Q : โปรแกรม Oligio มีผลข้างเคียงไหม
A : โดยทั่วไปหลังทำอาจมีรอยชมพูหรือรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผิวเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมง
Q : คนอายุน้อยสามารถทำได้ไหม
A : สามารถทำได้โดยเฉพาะผู้ที่มีใบหน้าเริ่มหย่อน หรือมีปัญหาโครงหน้าไม่ชัด เช่น ใบหน้ากลม แก้มเยอะ หรือมีเหนียงใต้คาง การทำโปรแกรม Oligio ตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยชะลอการหย่อนคล้อยในอนาคตได้ดี
Q : ทำร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ไหม
A : สามารถทำร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ โปรแกรมฉีดโบท็อก หรือโปรแกรมเลเซอร์บางชนิด แต่ควรเว้นระยะตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดผลกระทบต่อกัน
1 ผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะฝังในร่างกาย
เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ มีลวดเหล็ก หรือรากฟันเทียมที่เป็นโลหะในบริเวณที่ทำการรักษา เพราะคลื่น RF อาจรบกวนการทำงานอุปกรณ์เหล่านี้ หรือเกิดความร้อนที่โลหะได้
2 ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง
เช่น มีแผลเปิด ผื่นแพ้ การติดเชื้อ เริม หรือสิวอักเสบรุนแรง เพราะการทำ RF อาจทำให้อาการแย่ลงหรือระคายเคืองมากขึ้น
3 ผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย
หากมีประวัติแพ้ง่ายหรือผิวไวต่อความร้อน อาจทำให้เกิดผื่น หรือรอยแดงหลังทำมากกว่าปกติทั่วไป
4 ผู้ที่เพิ่งทำโปรแกรมอื่นมาไม่นาน
เช่น โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์ หรือร้อยไหม และควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
5 ผู้ที่มีภาวะโรคเรื้อรังควบคุมไม่ได้
เช่น เบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้ โรคหัวใจ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองบางชนิด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการฟื้นตัวหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
6 ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นคีลอยด์ง่าย
เพราะในผู้ป่วยบางรายอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหรือแผลเป็นหลังทำได้ง่ายกว่าคนทั่วไป